วันศุกร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2553

15 สุดยอด moment ของการเข้ากะ

15 สุดยอด moment ของการเข้ากะ ที่คนเคยเข้ากะเท่านั้นที่จะเคยสัมผัส (ไม่ได้เรียงลำดับ)

1.การมาต่อกะในตอนเช้าและได้เห็นเพื่อนร่วมงานในช่วงเวลาที่โทรมสุดๆ ผมยุ่ง ตาโหล หน้าง่วง ปากเหม็น แต่พยายามสร้างภาพว่า ทำงานจนถึงเช้าโดยไม่ได้พักงีบ

‎2.การพักกลางวัน 20 นาที เร่งรีบสุดๆ มุ่นมั่นกินข้าวเพื่อประทังชีวิตโดยไม่มีการชมวิวใดๆทั้งสิ้น ที่ไหนมีข้าวที่ใกล้ที่สุดก็ไปที่นั่น
ไม่ต้องคิดถึงรสชาติของอาหารใดๆ คิดแต่ว่างานที่รออยู่กำลังร้องเรียกเพรียกหา นี่มันอะไรกันวะนี่

3.ความง่วงงงงงงงงงงง ในกะดึก จนไม่รู้จะง่วงยังไง เล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเน็ต จนไม่รู้จะทำอะไร (ไม่ทำงาน) สุดท้ายก็พ่ายแพ้ให้กับการหลับไหลลลลล

‎4.การเดินสวนกับคนหมู่มากที่รอรถเมล์กลับบ้านและรถเป็นร้อยๆคันที่ติดอยู่ในถนนโดยไม่ขยับเขยื้อน เดินอย่างสบายใจเพื่อไปกินข้าวอย่างสวนกระแส เดินอย่างคนที่ใช้ชีวิตเหนือระดับ ในขณะที่ทุกคนกำลังแย่งกันใช้ถนนอย่างกับไม่เคยใช้กัน

‎5.การรวมหมู่กันลงไปอุดหนุนเซเว่นในกะดึก ที่เรียกได้ว่าถ้าผู้บริหารซีพีมาเห็น ต้องโค้งคำนับขอบคุณด้วยใจจริง และเชื่อได้ว่า ของกินทุกชนิดใน 7-11 พวกเราจัดการมาหมดแล้วทั้งสิ้น

‎6.การเดินหน้าง่วง หัวฟู ตัวเหม็น ขึ้นรถเมล์กลับบ้านในช่วงเช้าโดยไม่กล้าเงยหน้าไปสบตาเหล่ามนุษย์เงินเดือนตัวหอมที่ออกมาทำงานตอนเช้า แต่หารู้ไม่ว่ามีสิ่งมีชีวิตเข้ากะบางคนกำลังจะกลับไปล้มตัวลงนอน

7.การเพ่งมองโทรศัพท์ที่โชว์เบอร์ออฟฟิศในขณะที่เราหยุดยาวและตัดสินใจว่าจะรับดีหรือไม่ เพราะรู้ว่าถ้ารับสายเมื่อไร ความสุขของการหยุดยาวอาจจะสิ้นสุดลงด้วยคำพูดง่ายๆ "เฮ้ย มึงสะดวกหรือเปล่าวะ พอดีกูติดธุระ"

8.การต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง กับเพื่อนลูกอีช่างป่วย ป่วยได้ป่วยดี ป่วยตีสี่ตีห้า เข้าเช้าแทนให้หน่อย "กูไม่ไหว" (หุหุ วันดีคืนดีเจอกูป่วยบ้างแน่ๆ)

9."ควบ" คำเดียวสั้น เช้าบ่าย บ่ายดึก แฮตทริก อะไรก็แล้วแต่ เจ็ดกะ แปดกะ ทำกันมาแล้วทั้งนั้น บอกได้เลยว่าต้องลอง เหนื่อยจริงอะไรจริง

10.การเคาต์ดาวน์ ลอยกระทง เลือกตั้ง เล่นน้ำสงกรานต์ ทำทุกประเพณีอยู่หน้าคอมพ์ที่ออฟฟิศ เพราะไอ้เพื่อนตัวดี รู้ตัวก่อน แลกเวรหนีเที่ยวไปแล้ววว

‎11.การโดนคนข้างกาายบ่นเรื่องไม่มีเวลาให้ เวลาไม่ตรงกัน วันหยุดไม่ได้ไปเที่ยว วันสำคัญไม่ได้หยุด เฮ้ออออออ

‎12.ความสุขในการเดินห้าง กินข้าว ดูหนัง ตอนกลางวัน วันธรรมดา ที่นอกจากเจ้าของธุรกิจแล้ว ก็มีเพียงคนเข้ากะเท่านั้น ที่สามารถทำอะไรเทพๆแบบนี้ได้

‎13.การต่อสู้ทำทุกวิถีทาง ยกแม่น้ำทั้งห้า ท้องฟ้าทั้งหก นรกทั้งเจ็ด ทำอะไรก็ได้ ให้เพื่อนยอมที่จะพูดคำว่า "เออ เดี๋ยวกูเข้าเวรให้"

‎14.ปวดหัว ท้องเสีย ท้องอืด โรคกระเพาะ นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย โรคร้ายๆที่มาพร้อมกับการทำอะไรไม่เคยเป็นเวลาอย่างใครเขา

ข้อ 15 ข้อสุดท้าย พูดสั้นๆหวังว่าคงเข้าใจ "วน"

วันจันทร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2553

ความคับข้องใจที่มีต่อโลกใบนี้

วินาทีแรกที่ผมได้ยินชื่อหัวข้อที่ผมจะต้องถ่ายทอด ผมอดไม่ได้ที่จะเผลออมยิ้มที่มุมปาก เม็ดเลือดแดงของผมพากันวิ่งพล่านสูบฉีดไปทั่วร่าง ผมอยากจะบอกพวกคุณว่าผมกำลังมีความสุข สุขราวกับว่าผมกำลังอยู่ในสวรรค์ชั้นที่ไม่มีมนุษย์หน้าไหนเคยขึ้นไปถึง ความสุขที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพราะว่าผมมีอะไรคับข้องใจมากมายที่รอการถ่ายทอด ซึ่งก็หมายความว่าหัวข้อนี้ไม่ได้ “เข้าทาง” สำหรับผมแต่อย่างใดเลย แต่ความสุขนั้นมันเกิดขึ้นเพราะในขณะนี้หัวสมองผมว่างเปล่า ผมมองโลกในแง่ดีเกินไปจนบางครั้งแทบจะเรียกได้ว่ามองโลกแบบไม่มีแง่ ใครหน้าไหนก็รู้ว่าโลกใบนี้มันกลม ไม่มีแง่ไม่มีมุมใดๆ ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่เชื่อเช่นนั้น ก็แล้วคนมองโลกกลมๆอย่างผมจะไปมีอะไรคับข้องใจกับใครเขาได้ มองไปทางไหนก็มีแต่ความสบายใจทั้งนั้นและนั่นมันทำให้ผมมีความสุขทุกครั้งที่ผมตระหนักถึงความเป็นตัวตนของผมแบบนี้ แต่ในขณะที่ผมกำลังดื่มด่ำกับความสุขอยู่อย่างอิ่มเอม ทันใดนั้นเอง ขนทั่วทั้งตัวของผมก็ลุกชันขึ้นมา สมองของผมสะดุ้งคิดขึ้นมาอีกครั้ง หรือว่า “โลกใบนี้” ที่ทางบรรณาธิการบอกผม มันจะไม่ใช่โลกใบเดียวกับที่ผมคิด ผมเองก็ลืมถามเสียด้วยว่าเขาหมายถึงโลกใบไหน เอ…หรือว่ามันมีแค่ใบเดียวนะ ไม่สิ ก็ไอ้ที่ผมอยู่มันคือโลกมนุษย์นี่นา เพราะฉะนั้นไอ้โลกที่สุนัขมันอาศัยอยู่มันก็น่าจะเป็นโลกสุนัข ส่วนไอ้โลกที่นกมันบินอยู่ก็น่าจะเรียกว่าโลกนก และผมก็เดาได้เลยว่ายังคงต้องมีอีกหลายโลกรวมอยู่ในจักรวาลนี้เป็นแน่แท้ โลกหมู โลกไก่ โลกเป็ด ก็น่าจะมีอยู่ แล้วบรรณาธิการเขาหมายถึงโลกใบไหน ใครจะไปรู้ได้

แต่ช้าก่อน ไม่ต้องหงุดหงิดกันไป คุณโชคดีแล้วที่ได้มาอ่านข้อเขียนของผมในวันนี้ ถึงแม้ผมเองจะไม่มีความคับข้องใจอะไรต่อโลกมนุษย์ แต่ผมก็จะขอตอบแทนพวกคุณที่เสียเวลามาอ่านบทความของผม ด้วยการนำเสนอความคับข้องใจของเพื่อนๆของผมแทน คุณอาจจะสงสัยกันว่า เพื่อนของผมคือใคร ผมก็ขอตอบว่า สิ่งมีชีวิตทุกชนิด ทั้งนก ทั้งปลา ทั้งหมู หมา กา ไก่ ก็เป็นเพื่อนของผมทั้งนั้น แต่วันนี้ผมคงจะนำเสนอได้ไม่ครบทุกชีวิต เพราะไอ้ที่ว่างก็เห็นจะมีแค่ นกฮูก ไก่ และปลาวาฬ สามคนเท่านั้นแต่แค่นี้ก็น่าจะพอนะ พวกคุณอาจจะหาว่าผมบ้าที่มีเพื่อนแบบนี้ แต่ผมจะบอกว่าโลกสมัยนี้อะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้นครับ เด็กมัธยมต้นแถวซอยบ้านผมมันยังเป็นเพื่อนกับท่านนายกรัฐมนตรีได้เลย แถมมันยังเป็นเพื่อนกับศิลปิน ดารา นักร้อง อีกเป็นกระบุง ก็แล้วขนาดเด็กมัธยมต้นยังมีสังคมกว้างขวางขนาดนั้น ผมซึ่งเจนจบบทเรียนชีวิตมาแล้วแทบทุกบท เรียกได้ว่าจบมาแทบทั้งหมดที่มนุษย์เค้าเรียนกัน ทำไมจะมีเพื่อนเป็นสิงสาราสัตว์ไม่ได้ หรือคุณคิดว่าไง ว่าแต่ว่าถ้าย้อนหลังไปสักสิบกว่าปี ผมคงต้องไปนั่งริมตลิ่งมหาสมุทร(มันมีหรือเปล่าไม่รู้ เกิดมายังไม่เคยไปเหมือนกัน) เพื่อที่จะนัดคุยกับเพื่อนๆได้ครบทั้งสามคน (พวกมันไม่ชอบให้ผมเรียกพวกมันว่า “ตัว”) แต่ยุคสมัยนี้มันถึงยุคอวตารกันแล้วล่ะครับ เราก็แค่นัดหมายเวลากันให้ดี จากนั้นก็ใช้วิธีของแต่ละคน (ตัว) ว่าจะ “Access” เข้ามาในโลกอวตารด้วยวิธีไหน มาตามผมมาดีกว่า

######## รอติดตามอ่านในการรวมเล่มเดือนธันวาคม 2553 นี้ครับ ^ ^ ###########