วันพฤหัสบดีที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2554

เราทุกคนต่างมีทะเลเป็นของตัวเอง

"เราทุกคนต่างมีทะเลเป็นของตัวเอง" คุณเชื่อผมไหม ?

วันหนึ่งถ้าเรามีโอกาสไปทะเลด้วยกัน คุณอาจจะเบื่อที่ผมนั่งๆนอนๆมองทะเลทั้งวัน "มาทะเลทำไมถ้าไม่เล่นน้ำทะเล"
นั่นเป็นตัวอย่างประโยคที่ผมคิดว่ามันอาจจะพรั่งพรูมาจากคุณด้วยความเบื่อหน่าย
แต่ถ้าผมนั่งมองทะเลคนเดียวได้ คุณเองก็ควรจะเล่นน้ำทะเลคนเดียวได้มิใช่หรือ
"ก็ในเมื่อนั่นมันคือทะเลของคุณ ทะเลซึ่งมีไว้สำหรับลงเล่นน้ำ"
ใครบางคนชอบปีนเขา แต่จะมีความสุขที่สุดถ้าระหว่างปีนนั้นหันหน้ามองออกมาแล้วเห็นทะเลกว้างใหญ่
ใครบางคนชอบนอนให้คนอื่นนวดตัว แต่จะสุขเป็นสองเท่าถ้าระหว่างที่นอนคว่ำนั้น
เงยหน้ามองไปแล้วเห็นผืนน้ำเค็มกว้างใหญ่อยู่ีตรงหน้า
บางคนชอบกินไก่ย่างส้มตำ ซึ่งในความเป็นจริงน่าจะเป็นอาหารอีสาน และอย่างที่ทุกคนรู้ ภาคอีสานไม่มีทะเล
แต่ก็อย่างที่พวกคุณก็รู้เช่นกัน ทะเลทุกที่มีส้มตำไก่ย่าง และพวกคุณบางคนก็ชอบกินส้มตำริมทะเล
นอกจากที่กล่าวไป ยังมีทะเลในอีกหลากหลายรูปแบบที่ผู้คนต่างหลงใหล
จะเป็น ดำน้ำ ถ่ายรูป กินเหล้า เมารัก อะไรก็แล้วแต่ล้วนใช้ทะเลเป็นส่วนประกอบได้ทั้งสิ้น
ถ้าเปรียบชีวิตเป็นอาหารมื้อใหญ่ ทะเลก็ไม่ต่างจากผงชูรสหรือน้ำปลาพริก ที่ช่วยเติมรสชาติให้กับชีวิต
ผิดกันแต่ว่าใครก็รู้ว่าผงชูรสนั้น ถ้าร่างกายได้รับมาเยอะจนเกินไปมันอาจจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี
และอีกทางถ้าเป็นน้ำปลาพริกตักราดมากไปอาจจะเผ็ดหรือเค็มจนทนกินต่อไม่ได้
.... แต่ถ้าเป็นทะเล มันไม่มีผลเสียต่อร่างกาย
และถึงแม้จะเค็ม แต่ผมก็ไม่เคยลังเลที่จะละเลงมันลงบนจานอาหารแห่งชีวิตของผมเลยสักครั้ง แล้วคุณล่ะ ?
แต่ถ้าใครจะเถียง ใครคิดว่าการได้รับทะเลเข้าสู่ร่างกายมากเกินไปจะเป็นผลเสีย
คุณไม่ต้องมาถกเถียงกับผม เชิญใช้ทะเลในแบบที่คุณต้องการและในปริมาณที่คุณคิดว่าเหมาะสม
เพราะไม่ว่าจะยังไง เราต่างก็มีทะเลเป็นของตัวเองกันทุกคนอยู่แล้ว หรือถ้าคุณยังไม่มี
ลองเข้ามาคุยกันดูก่อน เผื่อผมจะให้คุณยืมทะเลของผม หวงหรือ ?
ไม่หรอก เพราะผมรู้ วันหนึ่งคุณก็จะต้องมีทะเลเป็นของตัวเอง เชื่อผมสิ