วันอังคารที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

วิศวกรสอนรัก ตอนที่ 1 "รักคืออะไร"

สวัสดีวัยรุ่นผู้เจนจัดในความอกหักทุกท่านครับ ครั้งนี้น่าจะเป็นครั้งแรกที่เราได้พบกันอย่างเป็นทางการ เพราะฉะนั้นผมจะถือโอกาสแนะนำตัวสักนิดหวังว่าคงไม่เสียเวลามากจนเกินไป ตัวผมเองร่ำเรียนปริญญาตรีมาทางสายวิศวกรรมแขนงหนึ่ง จากนั้นมุ่งหน้าออกจากมหาวิทยาลัยเพื่อศึกษาต่อในอีกสาขาที่คนทั่วโลกอยากที่จะเรียนรู้ให้เจนจัด แต่ผมขอบอกเลยว่ามีไม่กี่คนที่ทำสำเร็จเช่นผม

วิศวกรรมความรักคือศาสตร์ที่ผมร่ำเรียนมาเป็นเวลานานหลังจากวันที่ก้าวออกมาจากมหาวิทยาลัย ผมไม่จำเป็นต้องแจกแจงสรรพคุณมากมายว่าอะไรบ้างที่ผมได้มาจากการทุ่มเทค้นคว้าและศึกษาศาสตร์แขนงนี้ คุณเองอาจจะรู้จักกับคอลัมน์ตอบปัญหาความรักมาบ้างไม่มากก็น้อย แต่ผมรับรองด้วยเกียรติของวิศวกรได้เลยว่าไม่มีคอลัมน์ไหนในโลกเหมือนคอลัมน์ของผม และถ้าคุณอยากรู้ว่าผมมีดีอะไรถึงกล้าที่จะบอกทุกคนแบบนั้น ผมขอเชิญมาพบกันทุกเดือนที่นี่ แล้วคุณจะรู้ว่าความรักไม่ใช่เรื่องยากและเราสามารถจัดการมันอยู่ได้ง่ายๆด้วยศาสตร์ของวิศวกรรม ส่งคำถามของคุณเข้ามาครับวิศวกรความรักอย่างผมจะแก้ปัญหาให้คุณเอง

คำถาม พี่วิศวกรขา ความรักคืออะไรคะเคยได้ยินผู้ใหญ่เขาพูดกัน หรือบางทีเพื่อนผู้ชายก็มาขอความรักจากหนู หนูไม่ให้ก็โกรธกระฟัดกระเฟียด ก็หนูยังไม่รู้เลยว่ามันคืออะไร จะให้ไปง่ายๆได้อย่างไรล่ะคะ จาก น้องหนูอยากรู้รัก

สวัสดีครับน้อง ก่อนอื่นขอบอกว่าชื่อน้องส่อไปในทางหนังสือเพลย์บอยยังไงไม่รู้นะครับ (ฮา) ที่พี่เลือกคำถามของน้องมาก็เพราะว่านี่น่าจะเป็นคำถามของเด็กวัยริรักทุกคนและคำถามนี้ก็ไม่เหมาะจะไปถามผู้ใหญ่ที่ไหนเพราะเขาจะหาว่าเราเป็นเด็กที่ตากแดดนานไป (แก่แดด) ได้นะครับ เพราะฉะนั้น น้องมาถูกทางแล้วครับ

ลองฟังคำตอบของคนส่วนใหญ่ที่ไม่ได้ศึกษาเรื่องความรักมาโดยตรงก่อนนะครับ ความรักก็คือการมีใจผูกพันหรือมีความรู้สึกดีๆต่อคนหรือสิ่งใดสิ่งหนึ่ง อะไรจำพวกนี้ล่ะครับ ถ้าคุณน้องหนูอยากรู้รักไปถามที่ไหนก็คงไม่ต่างจากนี้นะครับ แต่ถ้าผมจะตอบแบบนี้ก็คงจะเป็นการดูถูกคอลัมน์ของตัวเองเกินไป ร่ำเรียนมาก็ตั้งหลายปีจะให้ตอบธรรมดาก็จะอายเขาเปล่าๆ เอาเป็นอย่างนี้ดีกว่าครับ ความรักคือ “แรงชนิดหนึ่งที่สามารถดึงดูดทุกสิ่งทุกอย่างให้เข้าหากันได้ ไม่ว่าจะเป็น คน สัตว์ หรือสิ่งของ” พอเข้าใจหรือเปล่าครับ อาจจะยากไปนิดแต่ไม่ต้องกลัวครับ ถ้าอ่านคอลัมน์ผมแล้วไม่รู้เรื่อง มาด่าผมได้ตลอดครับ แต่หาผมให้เจอแล้วกัน (ฮา) เลิกเล่นๆ ผมจะอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับความรัก โดยอ้างอิงจากกฎที่เกี่ยวกับ “แรง” ทั้งสามข้อที่คุณไอแซก นิวตัน อธิบายกันไว้ละกันนะครับ เพราะไหนๆก็บอกว่ารักเป็น “แรง” ชนิดหนึ่งแล้ว มันก็น่าจะอธิบายได้เช่นเดียวกับแรงอื่นๆ น้องหนูว่าอย่างนั้นไหมครับ แต่จะว่าอย่างไร ผมก็จะอธิบายครับ (แล้วจะถามทำไม)

กฎของรักข้อแรกครับเขาบอกว่า หากไม่มีรักมากระทำต่อชีวิตหนึ่ง ชีวิตนั้นจะอยู่นิ่งอย่างซังกะตาย จนกว่าจะมีความรักมากระทำต่อชีวิตนั้น ตัวอย่างก็เช่น หากน้องหนูใช้ชีวิตไปทุกวันๆ โดยไม่มีความรักมากระทำ ชีวิตน้องหนูก็จะคงสภาพอยู่นิ่ง เอื่อยเฉื่อย น่าเบื่อหน่าย แก่ง่าย ตายช้า หน้าไม่อายอยู่อย่างนั้น (แซวเล่นนะครับ) จะว่าไปก็คงเหมือนสาวๆที่ไม่รู้จักกับความรัก เธอจะตื่นเช้าเพื่อทำงานไปวันๆ เลิกงานก็รีบกลับบ้านมาดูละครน้ำเน่า ใช้ชีวิตเป็นหุ่นยนตร์ออฟฟิศรอว่าเมื่อไรจะมีความรักตกถึงท้องครับ น้องหนูเห็นภาพใช่ไหมครับ แต่วันใดที่น้องหนูได้พบรักกับหนุ่มวิศวกรดีๆสักคน ย้ำ วิศวกรดีๆสักคน (ฮา) ชีวิตน้องหนูก็จะชุ่มช่ำ จากที่จะกลับบ้านมาดูละครน้ำเน่าคนเดียวก็อาจจะกลายเป็นนัดกันไปจิ๊จ๊ะ บะบะโอ้บะบะ อะไรอย่างนี้ แจ่มไปเลยครับ

มากันที่ข้อสองนะครับเขาว่าไว้อย่างนี้ครับ เมื่อมีรักมากระทำต่อชีวิตหนึ่ง รักนั้นจะเปลี่ยนแปลงโมเมนตัมของชีวิตและทำให้ชีวิตเคลื่อนที่ไปตามแนวทางของความรัก โดยชีวิตจะเปลี่ยนแปลงเร็วเท่าไรก็ขึ้นอยู่กับว่าความรักมันโจมตีหัวใจเราหนักเท่าไรนะครับ พอเข้าใจใช่ไหมครับ ว่าแต่โมเมนตัมคืออะไรครับ ในทางวิศวกรรมให้คำตอบว่า โมเมนตัมคือความสามารถในการเคลื่อนที่ครับ นั่นหมายความว่า ถ้าหนูมีความรักเข้ามาในชีวิตความสามารถในการทำสิ่งต่างๆในชีวิตหนูจะเปลี่ยนไปครับ ตัวอย่างเช่น ความสามารถในการมองเห็นของหนูก็อาจจะแย่ลง (ความรักทำให้คนตาบอด ฮา) สรุปว่ามันขึ้นอยู่กับว่าความรักนั้นจะดีหรือไม่ดีน่ะครับ เช่นถ้าหนูมารักกับพี่ ชีวิตหนูก็จะดีขึ้นมากๆ อย่างนี้เป็นต้นครับ ฮาฮา (มีหยอดตลอด)

มาที่ข้อสุดท้ายครับเขาบอกว่าเมื่อชีวิตหนึ่งส่งมอบความรักไปกระทำกับอีกชีวิตหนึ่ง ชีวิตที่ถูกกระทำจะออกแรงกระทำกลับในขนาดที่เท่ากัน ข้อนี้ทำให้นักรักตายมานักต่อนักแล้วครับ ผมจะอธิบายให้น้องหนูเข้าใจง่ายๆนะ ถ้าน้องหนูไปรักใครคนหนึ่ง ยิ่งน้องหนูใช้แรงแห่งรักกระทำและแสดงออกต่อเขามากเท่าไร เขาก็จะกระทำและแสดงออกต่อหนูมากเท่านั้น อันนี้จริงครับผมยืนยัน แต่แรงที่เขาใช้กระทำต่อหนูนั้นมันไม่ใช่รักอย่างเดียวสิครับ มันอาจจะมีแรงเกลียด แรงแค้น หรือแรงอื่นๆ ด้วยก็ได้ และน้องหนูก็จะรับไปหนักเท่าๆกับที่เราแสดงออกต่อเขาไปนั่นล่ะครับผม เพราะฉะนั้นจะรักใครง่ายๆก็ระวังไว้หน่อยนะครับ ถ้าดูไม่ดีอาจจะเจ็บฟรีได้
อ่านมาจนจะจบ พอจะเข้าใจบ้างหรือเปล่าครับน้องหนู พี่ขอสรุปว่า ความรักก็คือแรงชนิดหนึ่งที่จะทำให้ชีวิตของน้องเปลี่ยนแปลงไปได้ ทั้งในทางที่ดีและไม่ดี และมันก็เป็นแรงที่น้องเองก็สามารถหยิบยื่นให้กับสิ่งต่างๆได้เช่นกัน การที่มีเพื่อนผู้ชายมาขอความรักจากน้อง ก็เพราะเขารู้ว่ามันจะขับเคลื่อนชีวิตเขาได้ คราวนี้น้องต้องระวังหน่อยนะครับที่จะให้ความรักกับใคร เพราะมันมีพลังมากกว่าที่น้องหนูจะจินตนาการได้อีกนะครับ ก็ลองคิดดูว่า แรงชนิดนี้นี่ล่ะที่ดึงดูดคนที่ไม่รู้จักกันให้อยู่ด้วยกันนานเป็น 30 – 40 ปี น่าทึ่งไหมละครับ
วันนี้น้องหนูอยากรู้รักก็น่าจะทราบคำตอบแล้วนะครับว่าความรักคืออะไร แต่ถ้าอยากรู้อะไรอีกก็ถามมาได้นะครับ พี่ไม่เคยรังเกียจน้องๆสาวๆอยู่แล้ว ว่าแต่วัยรุ่นทั้งหลายเอ๋ย สงสัยอะไรเกี่ยวกับความรักกันบ้างหรือเปล่า วิศวกรจะสอนให้นะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น