วันเสาร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

DREAM 2 บทที่ 8 โค่นแชมป์เก่า



นับตั้งแต่พวกเราทุกคนย้ายมาทำมาหากินในแผ่นดินยุโรปแห่งนี้ นี่ดูจะเป็นปีที่ดีที่สุดของพวกเราทุกคนที่ต่างได้รับโอกาสให้ลงสนามไปหาประสบการณ์ในทีมชุดใหญ่กันถ้วนหน้า บางคนอาจจะได้ลงเล่นในเกมที่มีความสำคัญน้อยหรือบางคนอาจจะได้ลงเล่นช่วงท้ายเกมที่ผลการแข่งขันขาดไปแล้ว แต่ถึงแม้จะเป็นโอกาสที่เล็กน้อย พวกเราทุกคนก็ยินดีกับมันอยู่เสมอ เพราะเราตระหนักกันดีอยู่แล้วว่าพวกเราเป็นใครและมาจากไหน การต่อสู้ในแผ่นดินยุโรปไม่ได้ง่ายดายสำหรับนักเตะเอเชียอยู่แล้ว ไม่ว่าจะในยุคสมัยใดและยิ่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างพวกเราด้วยแล้ว การดูถูก การเหยียดผิวหรือเหยียดเชื้อชาติย่อมเกิดขึ้นอยู่เสมอๆเพราะในสายตาของเหล่านักเตะยุโรป อเมริกาใต้ หรือแอฟริกา พวกเราไม่มีอะไรไปเทียบพวกเขาได้เลย ทั้งทักษะ ความแข็งแกร่งหรือความเป็นมืออาชีพในด้านต่างๆ แต่สิ่งที่พวกเราทุกคนมี และใช้มันเอาชนะความเชื่อผิดๆของเหล่าเพื่อนนักเตะรวมทั้งสต๊าฟโค้ชนั่นก็คือ ความพยายาม
ในขณะที่การชิงชัยในแต่ละลีกกำลังเข้มข้นและเข้าสู่โค้งสำคัญในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกส์ปีนี้เองก็มีความเข้มข้นไม่ได้ยิ่งหย่อนกันแต่อย่างใด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดของต้นสามารถเอาชนะลีลล์ของฝรั่งเศสไปได้ทั้งเหย้าและเยือนด้วยสกอร์เดียวกันคือ 1 – 0 โดยต้นได้รับโอกาสลงเล่นราว 70 นาทีในแมตซ์ที่แมนยูเตะในบ้านของตัวเอง และต้นเองเมื่อรู้ว่าทั้งแมนยู มิลาน และบาเยิร์น มีโอกาสที่จะได้เจอกันในรอบรองชนะเลิศ ต้นก็เลยไม่พลาดโอกาสที่จะบอกทั้งผมกับเทพและโยกับเอ็มว่า มันจะเข้าไปรอในรอบรองชนะเลิศก่อน เพราะมันมั่นใจว่าเพื่อนๆน่าจะช่วยกันปราบโรม่าที่จะพบกันในรอบ 8 ทีมสุดท้ายได้ และที่สำคัญมันเองก็จะขออเล็ก เฟอร์กูสัน บินมาดูฟอร์มของพวกเราด้วยในเกมที่บาเยิร์นจะพบกับมิลานในรอบ 8 ทีมสุดท้ายนี้ เราเองไม่รู้ว่าต้นอยากเจอใครมากกว่ากันระหว่างบาเยิร์นกับมิลาน แต่สำหรับพวกเราสี่คน ไม่ว่าใครจะได้ผ่านเข้ารอบต่อไป สิ่งที่เราต้องการที่สุดเป็นเพียงการได้ลงเล่นร่วมกันสี่คนในสนามเดียวเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เรามาอยู่ที่ยุโรปนี้ ในส่วนของตัวผมเอง เพื่อนๆในทีมมิลานก็เกรงฟอร์มของบาเยิร์น มิวนิคมากพอสมควรเพราะการที่บาเยิร์นสามารถเอาชนะรีล มาดริดได้ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายนั้นก็เป็นเครื่องการันตีชั้นดีแล้วว่า เสือใต้ทีมนี้พร้อมเต็มตัวแล้วสำหรับการมุ่งไปสู่แชมป์ ucl ในฤดูกาลนี้ นอกจากพวกเราสี่คนที่จะได้พบกันในรอบ 8 ทีมสุดท้ายและอาจจะได้ไปพบกับต้นในรอบ 4 ทีมสุดท้ายแล้ว ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายนี้ก็มีอีกคู่หนึ่งที่พวกเราทุกคนใจจดใจจ่อรอชมกันอยู่ในขณะนี้ หลังการจับฉลากที่ทำให้บาร์เซโลน่าของตั๊กจับฉลากมาพบกับลิเวอร์พูลของนัท นั่นทำให้พวกเราทุกคนอยากจะชมการปะทะกันของสองทีมต่างสไตล์รวมทั้งการปะทะกันของเพื่อนเราสองคนด้วยแต่เนื่องจากภาระหน้าที่ในทีมที่พวกเราต่างมีเหมือนกันนั่นทำให้ไม่สามารถจะบินไปดูตั๊กกับนัทได้ด้วยตัวเอง ซึ่งนั่นก็สร้างความเสียดายให้กับพวกเราพอสมควรเลยทีเดียว แต่อย่างไรแล้วพวกเราก็คงไม่พลาดชมการถ่ายทอดสดอย่างแน่นอน

“พวกมึงไม่มาดูเหรอวะ นัดแรกแม่งดันแพ้ในบ้านทั้งๆที่เล่นดีมาก คราวนี้ไปเยือนแอนฟิลด์ โค้ชบอกต้องบุกเต็มที่ว่ะ” ตั๊กพิมพ์มาใน msn เดี๋ยวนี้พวกเราประหยัดค่าโทรศัพท์มากขึ้นด้วยเทคโนโลยีเหล่านี้ “กูยังไม่รู้เลยว่าราฟาจะให้เล่นอย่างไร อุดหรือว่าแลกไปเลย” นัทพิมพ์ “พวกกูซ้อมว่ะ แต่ยังไงจะดูถ่ายทอดสดแน่” ผมพิมพ์ “ช่วงนี้กูกับไอ้เอกถูกเคี่ยวหนักเพราะนักเตะส่วนใหญ่มีอายุแล้ว เค้าอยากให้พวกกูคอยช่วยเสริมเวลาเกมที่พวกรุ่นพี่หมดแรง” เทพพิมพ์ “แล้วพวกมึงสองคนจะได้ลงเปล่าวะเกมนี้” โยถาม “เออ ถ้าพวกมึงได้ลงเราคงดูสนุกกันขึ้น” เอ็มเสริมให้อีกคน “กูว่าไอ้นัทมีโอกาสนะ เพราะปีกซ้ายดีๆลิเวอร์พูลไม่มีเลยฤดูกาลนี้ แล้วในเกมลีกมันก็ได้ลงเล่นมาเยอะแล้วเหมือนกันนะ ถ้าราฟาจะใช้ปีก มันก็อาจได้รับโอกาส” ต้นให้ความเห็น “แต่กูสิคงยาก กองหน้าสามตัวระดับเทพทุกคน ถ้าจะได้ลงคงท้ายเกมจริงๆ” ตั๊กว่าตามความคิดของตัวเอง “เอาวะ หวังว่าทุกคนคงโชคดี แล้วพบกันใน ucl โว้ย” ผมบอกเพื่อนๆพร้อมทั้งร่ำลาแยกตัวกันไปซ้อมช่วงบ่ายต่อไป ผมยิ้มให้กับชีวิตของตัวเองและเพื่อนๆในวันนี้อีกครั้ง จากโค้กคัพมาจนถึงยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกส์ เส้นทางสายนี้ไม่เคยจะเรียบง่าย ขวากหนามมากมายที่คอยกั้นขวางไม่ให้พวกเรามาถึงตรงนี้ได้ แต่ห้าปีที่เต็มไปด้วยความพยายามในการพิสูจน์ตัวเองซึ่งในที่สุดแล้ว ห้าปีนั้นก็ไม่ได้หายไปไหน แต่มันกำลังออกดอกออกผลให้พวกเราเห็นอยู่ตรงหน้าในขณะนี้

แอนฟิลด์วันนี้มีชีวิตชีวาแตกต่างจากวันที่มีการแข่งขันพรีเมียร์ลีกมากทีเดียว ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกส์ให้ความแตกต่างทั้งในแง่ของมาตรฐานฝีเท้าของผู้มาเยือนและช่วงเวลาในการแข่งขัน เหล่าเดอะค็อปทั้งหลายเฝ้ารอเหล่าซูเปอร์สตาร์จากต่างแดนที่จะเข้ามาเป็นเหยื่อให้กับเครื่องจักรสีแดงที่พร้อมบดขยี้ทุกทีมที่มาขวางเส้นทางไปสู่แชมป์ ucl ในปีนี้ของพวกเขา และทุกสิ่งทุกอย่างยิ่งทวีความรุนแรงโหมกระหน่ำเมื่อผู้มาเยือนในวันนี้มีดีกรีเป็นถึงแชมป์เก่าของถ้วยใบนี้ในปีที่แล้ว อีกทั้งยังมีเหล่าดารามากมาย ซาบี้ เดโก้ โรนัลดินโญ่ เอโต้ เมสซี่ คือตัวอย่างรายชื่อของผู้มาเยือนในค่ำคืนนี้ ท่ามกลางเสียงเพลง you will never walk alone ที่ดังอื้ออึงไปทั่วทั้งแอนฟิลด์ ใบรายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีมก็ได้ถูกแจกจ่ายไปสู่เหล่านักข่าวที่เข้ามาเป็นสักขีพยานในเกมนี้เรียบร้อยแล้ว จากนัดแรกที่ทีมหงส์แดงไปเก็บชัยชนะได้ถึงคัมป์นู นั่นทำให้เจ้าบุญทุ่มบาร์เซโลน่าจำเป็นจะต้องบุกแหลกในเกมนี้และนี่คือรายชื่อ 11 ตัวจริงภายใต้ระบบ 4-3-3 ที่แฟรงค์ ไรจ์การ์ดผู้เป็นกุนซือต้องการ ผู้รักษาประตู บัลเดส กองหลังไล่จากซ้ายไปขวา ซิลวินโญ่ มาร์เกวซ ตูราม ปูโยล กองกลาง อิเนสต้า ซาบี้ เดโก้ และกองหน้า เมสซี่ เอโต้ ดินโญ่ ดูจากรายชื่อผู้เล่นแล้ว ผลการแข่งขันในเกมแรกนั้นไม่ควรจะเกิดขึ้นกับทีมที่มีตัวผู้เล่นระดับสุดยอดเต็มทีมเช่นบาร์เซโลน่าทีมนี้ แต่ฟุตบอลก็ยังคงแสดงความน่าสนใจของมันอยู่ตลอดเวลา และในวันนี้ราฟาเอล เบนิเตซจะแสดงสิ่งเหล่านั้นให้เราเห็นอีกครั้งด้วยผู้เล่นต่อไปนี้นายทวาร เรน่า กองหลังจากซ้ายไปขวา รีเซ่ แอกเกอร์ คาราเกอร์ อาเบลัว กองกลางทั้งสี่ตัวประกอบด้วย เจอร์ราร์ด อลองโซ่ ซิสโซโก้ และนัท ปีกดาวรุ่งจากประเทศไทยที่ได้ลงสัมผัสเกม ucl เป็นครั้งแรกของชีวิต และคู่กองหน้า เบลลามี่ เคร้าซ์
ที่มิลาน “เทพๆ ไอ้นัทได้ลงด้วยโว้ย แต่ไอ้ตั๊กแค่สำรองว่ะ” ผมพูด “แค่สำรองก็ดีใจตายห่าแล้ว ดีใจกับพวกมันจริงๆว่ะ” เทพพูด
ที่มิวนิค “ไอ้นัทแม่งเอาจนได้ว่ะ แจ๋วจริงๆมัน” เอ็มพูด “ตอนนั้นยังไปคัดที่บีอีซีกับกู ไม่คิดเลยแม่งจะมีวันนี้ แล้วไอ้ตั๊กล่ะวะ” โยพูด “สำรองว่ะ ลุ้นให้แม่งได้ลง สนุกแน่วันนี้” เอ็มพูด

ที่แมนเชสเตอร์ “เสียดายไม่ได้ไปดู แต่กูจะเชียร์มึงทั้งสองคนนะ สู้โว้ย” ต้นให้กำลังใจเพื่อนๆผ่านหน้าจอทีวีอีกครั้ง
บาร์เซโลน่าจะเป็นฝ่ายเขี่ยลูกก่อน เบื้องหน้าของนัทเต็มไปด้วยนักเตะระดับสุดยอดที่พวกเราทุกคนใฝ่ฝันที่จะปะทะฝีเท้าด้วยอยู่ตลอดเวลาและเมื่อวันนี้ความฝันของนัทมันเป็นจริงขึ้นมา มันแทบจะระงับความตื่นเต้นเอาไว้ไม่ได้เลยทีเดียว มันพยายามหายใจเข้าออกอย่างช้าๆ เพื่อคลายความตื่นเต้นลงเพราะนี่คือโอกาสสำคัญที่มันจะต้องโชว์ฟอร์มให้ดีเพื่อให้แมวมองทั่วทั้งยุโรปเห็นว่านักเตะไทยก็ไม่ได้ด้อยความสามารถกว่านักเตะยุโรปแต่อย่างใด เบนิเตซเองบอกกับนัทก่อนเกมว่ามันต้องประจำการทางริมเส้นไม่ให้หุบเข้ากลางเพราะว่าต้องคอยป้องกันไม่ให้ปูโยลกัปตันทีมของทางคู่ต่อสู้เติมเกมขึ้นมาอย่างสะดวกได้และเมื่อเป็นฝ่ายบุก มันต้องพยายามโยนเข้ากลางเพื่อใช้จุดเด่นของปีเตอร์ เคร้าซ์ เข้าทำประตู ซึ่งเบนิเตซเองมั่นใจว่ากองหลังของบาร์เซโลน่าไม่ถนัดกับการรับมือลูกโยนเข้าทำจากทางด้านข้างแน่ นัททบทวนทุกอย่างในใจอีกครั้งก่อนที่บอลจะเคลื่อนจากเท้าของนักเตะบาร์เซโลน่าเพื่อเป็นการเริ่มเกมและเมื่อลูกฟุตบอลหมุน ประสบการณ์ใน ucl นัดแรกของนัทก็หมุนตามราวกับมันพยายามจะบอกกับเราว่าฟุตบอลไม่มีทางแยกจากมันได้ไม่ว่าจะเมื่อไรก็ตาม

เกมเป็นไปอย่างที่ทุกคนพอจะคาดเดากันได้ บาร์เซโลน่าที่เสียประตูทีมเยือนไปในนัดที่แล้วเป็นฝ่ายดาหน้าเข้าบุกลิเวอร์พูลในชนิดที่เรียกได้ว่าโงหัวไม่ขึ้น แต่เหล่าแผงหลังและแผงกองกลางที่ทำหน้าที่เป็นกำแพงหนาสองชั้นนั้นไม่เปิดโอกาสให้ผู้มาเยือนสามารถทำอะไรโฆเซ่ เรน่าได้มากนักอีกทั้งเมื่อสบโอกาสที่บาร์ซ่าพลาดให้ ลิเวอร์พูลก็ตอบโต้คืนได้อย่างเจ็บๆเช่นเดียวกันโดยเฉพาะการขึ้นเกมทางฝั่งซ้ายของไอ้นัทที่สามารถกดดันปูโยลได้ด้วยความเร็วและทักษะของมันแต่ด้วยความแข็งแกร่งและประสบการณ์ของปูโยลก็ยังทำให้เจ้าตัวสามารถเอาตัวรอดได้อยู่ตลอดเวลาแต่แล้วด้วยความดื้อดึงจะเอาชนะของไอ้นัทเองมันก็ทำให้ทีมเสียหายในแบบที่เกือบจะประเมินค่าไม่ได้เลยทีเดียว มันเกิดขึ้นจากจังหวะโต้กลับในช่วงนาทีที่ 30 ในขณะที่ซาบี้กับอิเนสต้าชิ่งบอลกันอยู่ตรงกลางสนามนั้น เจอร์ราร์ดตัดสินใจเข้าเสียบสกัดหนักใส่อิเนสต้าทันทีที่บอลมาถึงเท้ากองกลางจอมพลิ้ว อิเนสต้าเองพยายามจะเอาตัวรอดแต่ในจังหวะนี้เจอร์ราร์ดเป็นฝ่ายที่ทำได้ดีกว่า ถ้าพูดกันอย่างเป็นกลางกรรมการบางท่านอาจจะตัดสินว่าจังหวะนี้เจอร์ราร์ดทำฟาวล์ใส่อิเนสต้าก็ได้เพราะว่าเป็นจังหวะการเข้าบอลที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ แต่เมื่อเสียงนกหวีดไม่ดังขึ้นอลองโซ่ที่เก็บบอลมาได้ก็บรรจงวางยาวออกทางด้านซ้ายให้กับนัท นัทลากจี้เข้าไปผ่านกลางสนามเข้าสู่พื้นที่แดนกลางของทางบาร์ซ่า เดโก้กองกลางร่างเล็กจากโปรตุเกสพยายามวิ่งเข้ามาเสียบสกัดแต่ก็ไม่ทันการณ์เสียแล้ว นัทยังคงกระชากผ่านการเสียบสกัดไปได้พร้อมกับที่กำลังจะเผชิญหน้ากับปูโยลที่จ้องจะจัดการกับปีกร่างบางชาวไทยให้รู้จักกับฟุตบอลยุโรปดีมากยิ่งขึ้น ในจังหวะที่นัทกำลังกระชากเข้าไปนั้น รีเซ่เองก็เติมเกมขึ้นมาทางซ้ายพร้อมทั้งเรียกบอลจากนัท อีกทั้งเจอร์ราร์ดเองที่ลุกมาจากการเสียบสกัดก็วิ่งตามมาขอบอลอยู่ตรงกลางสนาม แต่เสียงเรียกบอลทั้งหมดก็เป็นแค่เพียงสิ่งที่นัทไม่เคยได้สนใจ การเผชิญหน้าตัวต่อตัวกับปูโยลต่างหากคือสิ่งที่มันคิด เมื่อระยะทางระหว่างนัทกับปูโยลอยู่ที่ไม่เกินสองเมตร นัทเลือกใช้การแตะบอลอ้อมปูโยลไปทางซ้ายก่อนที่ตัวมันเองจะวิ่งอ้อมปูโยลไปทางขวาเพื่อที่จะเอาบอล ทุกอย่างกำลังดูจะไปได้สวยแต่แล้วในขณะที่มันกำลังวิ่งอ้อมไปเอาบอลนั้น ตูรามซึ่งวันนี้เล่นตำแหน่งกองหลังตัวกลางก็ใช้ประสบการณ์ในการอ่านเกม วิ่งออกมาจากโซนรับพร้อมทั้งตัดบอลลูกนี้ไปก่อนที่นัทจะเข้ามาถึง จากนั้นบอลถูกผ่านไปข้างหน้าตามสไตล์ของบาร์เซโลน่าและเพียงไม่ถึงนาทีจากที่เสียบอลโรนัลดินโญ่ก็บรรจงลากบอลผ่านอาเบลัว อีกทั้งโยกหลอกคาราเกอร์จนหลงทางและจ่ายให้กับเอโต้ ยอดศูนย์หน้าจากแคเมอรูนเพื่อไปดวลเดี่ยวกับเรน่านายประตูหัวโล้นของทีมกระทิงดุสเปนและแล้วเมื่อหมดเวลาครึ่งแรก บาร์ซ่าก็เป็นฝ่ายขึ้นนำไปก่อน 1 – 0 และแน่นอนคนที่ถูกตำหนิในห้องพักมากที่สุดก็ไม่พ้นนัทเนื่องจากมันทำเสียบอลในจังหวะโต้กลับซึ่งเกิดขึ้นจากความมุทะลุจะเอาชนะเพียงอย่างเดียวโดยไม่สนใจว่าทีมจะเป็นอย่างไรและผลกระทบของการเสียประตูจังหวะนี้จะทำให้ลิเวอร์พูลตกรอบเลยหรือไม่ ใครก็ไม่อาจรู้ได้

เวลาผ่านไป 15 นาที นักเตะทุกคนทยอยเดินลงสู่สนาม นัทยังคงไม่ถูกเปลี่ยนตัวออกและได้รับโอกาสแก้ตัวต่อไป ตั๊กเดินมาให้กำลังใจเพื่อนก่อนแยกตัวไปนั่งที่เก้าอี้สำรองเพื่อรอโอกาสของตัวเองเหมือนเดิม ด้วยความที่สกอร์นัดแรกลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายชนะไป 2 – 1 นั่นทำให้ด้วยสกอร์ที่เป็นอยู่ตอนนี้ลิเวอร์พูลยังคงจะเป็นผู้เข้ารอบถ้าเกมจบลงตรงนี้ แต่เมื่อใดก็ตามถ้ามีประตูถัดไปเกิดขึ้นฝ่ายที่ทำประตูได้จะค่อนข้างได้เปรียบมากทีเดียวในการเข้าสู่รอบต่อไปและเมื่อเกมครึ่งหลังเริ่มขึ้น บาร์เซโลน่ายังคงปูพรมถล่มเข้าใส่ลิเวอร์พูลอย่างไม่หยุดยั้งแต่ลิเวอร์พูลก็ยังคงใช้สไตล์การเล่นเกมรับด้วยกองกลางและกองหลังทั้ง 8 คนอยู่ในแดนตัวเองนั่นทำให้เกมเป็นไปอย่างอึดอัดต่อทั้งสองฝ่าย ทางราฟาเอล เบนิเตซเองก็คงมั่นใจในตัวลูกทีมถึงได้ให้เล่นในรูปแบบนี้ แต่สำหรับนัทซึ่งไม่ถนัดเกมรับเท่าไรแล้ว การเล่นแบบนี้ดูจะลำบากสำหรับมันอยู่มากทีเดียวแต่ราฟาเองก็ยังต้องการที่จะเก็บมันไว้ในสนามเพื่อที่จะเล่นจังหวะโต้กลับได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งราฟายังได้บอกมันมาว่าใน 15 นาทีสุดท้าย ลิเวอร์พูลจะเปิดเกมสู้โดยที่บาร์ซ่าอาจจะไม่ทันได้ตั้งตัวเลยทีเดียว และจนกระทั่งนาทีที่ 65 ของเกม สกอร์ก็ยังคงถูกตรึงอยู่ที่เดิม ไรจ์การ์ดเองในฐานะของโค้ชจึงไม่สามารถอยู่เฉยได้แล้วในสถานการณ์เช่นนี้ และแล้วเขาก็กวักมือให้ลูกทีมที่นั่งกันอยู่หลายต่อหลายคนลุกมาวอร์มกันเพื่อเตรียมตัวลงสนามและหนึ่งในนั้นก็มีตั๊กของเราอยู่ด้วยเช่นกัน และเมื่อบาร์ซ่าโดนโต้กลับจากการเสียบอลแดนกลางอีกครั้งและคราวนี้ไอ้นัทสามารถโยนเข้ากลางให้เคราซ์โขกบอลไปให้บัลเดสได้ออกแรงอีกครั้งซึ่งเป็นครั้งที่สามแล้วในครึ่งหลัง เมื่อนั้นทำนบความอดทนของไรจ์การ์ดก็หมดลง “ตั๊กนายเปลี่ยนชุดเลย เดี๋ยวลงไปแทนเมสซี่นะ” ไรจ์การ์ดพูด แค่เพียงคำพูดสั้นๆไม่กี่พยางค์นี้ มันก็ทำให้หัวใจของตั๊กเต้นไม่เป็นจังหวะเสียแล้ว

“ยิงประตูให้ได้นะตั๊ก ทำหน้าที่แทนเราด้วย”เมสซี่พูด “ไม่ต้องห่วงน่ะ คอยดูละกัน” ตั๊กตอบรับเป็นมั่นเหมาะ ทั้งสองคนแปะมือกันก่อนที่ตั๊กจะได้ลงสนามไปทำหน้าที่กองหน้าตัวกลางแทนโดยเอโต้จะเป็นผู้ถ่างออกมาเล่นกองหน้าริมเส้นฝั่งขวาแทนเมสซี่เอง ตั๊กคิดในใจว่าโอกาสดีๆอย่างนี้ไม่ได้มาบ่อยๆเพราะฉะนั้นมันจะทำให้ดีที่สุดเท่าที่มันจะทำได้และเมื่อ ucl แมตซ์นี้ มีคนไทยถึงสองคนที่อยู่ในสนามแข่งขัน แน่นอนว่ามันจะต้องเป็นแมตซ์ในความทรงจำของแฟนบอลชาวไทยไปอีกนานอย่างแน่นอนและไม่แน่ว่าสิ่งนี้อาจจะถูกจดจำมากกว่าผู้ชนะในวันนี้เสียอีก

ตั๊กรับบอลมาจากเอโต้ก่อนเอาตัวบังไม่ให้คาราเกอร์เข้ามาแย่งจากทางด้านหลังได้ มันพลิกตัวทำชิ่งกับโรนัลดินโญ่ก่อนวิ่งเข้าไปรับบอลในเขตโทษแต่เมื่อบอลมาถึงมันแอกเกอร์เองก็มาถึงตัวมันแล้วเช่นกัน ตั๊กพยายามโยกหลอกแอกเกอร์เพื่อหาจังหวะยิงแต่ด้วยพื้นที่ที่แคบไปสักนิดนั่นทำให้มันไม่สามารถทำได้สำเร็จ บอลถูกตัดจากแอกเกอร์ก่อนผ่านเท้าอลองโซ่เข้าไปสู่เท้านัทอีกครั้ง มันกระชากแล้ววิ่งแข่งกับปูโยลเหมือนที่มันเอาชนะได้มาตลอดทั้งเกมแต่คราวนี้มันระวังการเข้าซ้อนของตูรามเป็นอย่างดีเพราะเคยผิดพลาดมาก่อนแล้ว 10 นาทีสุดท้ายของเกม ราฟาโบกมือให้นักเตะตัวเองดันเกมเข้าไปในแดนของบาร์ซ่าอย่างที่ไม่ได้ทำมาเลยตลอด 80 นาทีที่ผ่านมา นัทผ่านบอลเข้ากลางให้กับเจอร์ราร์ดที่เติมขึ้นมาก่อนที่เจอร์ราร์ดจะฝากบอลไปที่เบลลามี่ที่ฉีกตัวไปเก็บบอลอยู่ทางริมเส้นฝั่งขวา แต่แล้วด้วยความเร็วที่ไม่เป็นรองกันนั่นก็ทำให้ซิลวินโญ่สามารถเอาชนะการดวลกันตัวต่อตัวกับเบลลามี่ในจังหวะนี้ได้ถึงแม้ว่าจะกระเสือกกระสนไปสักนิดแต่บอลก็ยังถูกผ่านไปถึงเดโก้ได้สำเร็จจนได้ เดโก้ใช้สายตาและทักษะที่มีอยู่อัดแน่นในตัวให้เป็นประโยชน์ในจังหวะนี้ด้วยการแทงบอลทะลุช่องไปให้ตั๊กหลุดทะลุการเช็คล้ำหน้าไปได้อย่างไม่ยากเย็น และจังหวะแบบนี้เพิ่งจะมีขึ้นเป็นครั้งแรกของเกมนี้เนื่องจากลิเวอร์พูลเพิ่งจะเปิดเกมสู้ในช่วงท้ายของครึ่งหลังนี้เอง ด้วยความเร็วซึ่งเป็นจุดอ่อนของตั๊กนั่นทำให้มันควบบอลเข้าไปถึงเขตโทษพร้อมๆกับที่คาราเกอร์ที่วิ่งตามลงมาสกัดพอดี และเพียงเสี้ยววินาทีแห่งความหวัง ตั๊กล๊อคบอลเข้าเท้าซ้ายก่อนซัดเต็มแรงในขณะที่คาราเกอร์ก็กระโดดเสียบสุดตัวเข้ามาขวางบอลราวกับไม่กลัวการบาดเจ็บแต่อย่างใด บอลแฉลบคาราเกอร์จนเปลี่ยนทิศทางหนีมือเรน่าลอยไปหาก้นตาข่ายที่ว่างเปล่า ช่วงเวลานี้ทั้งสนามแอนฟิลด์เงียบกริบเปรียบดังผู้ชมเรือนแสนต่างกลั้นหายใจเพื่อลุ้นระทึกกับจังหวะสำคัญจังหวะนี้แต่แล้วเทพีแห่งโชคก็เป็นชาวเมืองลิเวอร์พูลอย่างที่เดอะ ค็อปเชื่ออย่างนั้นมาโดยตลอด จังหวะยิงที่ถนัดถนี่ที่สุดของตั๊กกลับถูกปฏิเสธโดยคานประตูในสนามแห่งนี้อย่างที่ตั๊กไม่ได้คาดคิดไว้ นักฟุตบอลทุกคนของบาร์เซโลน่าต่างไม่อยากจะเชื่อสายตาว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นในลักษณะนี้ และแล้วเสียงนกหวีดของกรรมการก็ดังขึ้น ความพ่ายแพ้ 0 -1 ก็ยังคงดีพอที่ลิเวอร์พูลจะผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้และนั่นก็ยังความเสียใจมาสู่ชาวคาตาลันทุกคนที่รอลุ้นผลนัดนี้กันอย่างใจจดใจจ่อแต่สุดท้ายแล้วฟุตบอลก็มีเรื่องโชคมาเกี่ยวข้องอยู่เสมอและคราวนี้ก็เช่นกัน

“ดีใจด้วยโว้ย เข้าชิงให้ได้นะเพื่อน” ตั๊กพูด “บาร์ซ่าเล่นฟุตบอลได้ดีกว่านะ แต่ฟุตบอลก็อย่างนี้ล่ะวะ แล้วจะเข้าชิงแทนละกันเพื่อน” นัทตอบเพื่อนรักไปตามที่ตัวเองคิดจริงๆ และไม่ว่าผลของเกมนี้จะเป็นอย่างไร คำว่าเพื่อนระหว่างทั้งสองคนจะไม่เปลี่ยนแปลงไปไหนและทั้งสองคนก็หวังว่าทุกคนในประเทศไทยคงจะจำเกมนี้กันได้ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไรเพราะการที่คนไทยสองคนลงเตะพร้อมกันใน UCL รอบน็อกเอาท์มันไม่ได้เกิดขึ้นกันอยู่บ่อยๆและถ้าไม่ใช่พวกเราที่ตัดสินใจจะมาตามฝันกันด้วยตนเอง พวกเราจินตนาการไม่ออกเลยว่าเมื่อไรจะมีวันนี้สำหรับประเทศไทยสักที

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น