วันเสาร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

DREAM บทที่ 5 จากมาดริดสู่บาร์เซโลน่า



อาทิตย์สุดท้ายของเดือนพฤษภาคมกำลังจะจากพวกเราไป นั่นหมายความว่าฟุตบอลนัดสุดท้ายในจอทีวีที่พวกเราจะได้ดูร่วมกันก็กำลังมาถึง ผมนัดเพื่อนๆทุกคนมาเจอกันตั้งแต่เย็นเพื่อที่จะเล่นเกมวินนิ่งรอไปจนกระทั่งฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกส์ (UCL)นัดชิงจะมาถึงในเวลาดึกสงัด ปีนี้เป็นปีที่ประวัติศาสตร์ของยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกส์จะต้องจารึกไว้ว่าเป็นครั้งแรกที่ทีมจากชาติเดียวกันเข้าชิงกันเอง และชาติที่ได้รับสิทธิ์นั้นก็คือสเปน เมื่อพูดถึงสเปนหลายคนที่ได้รู้ผลการจับฉลากคงคิดว่าจะได้เห็นราชันชุดขาวรีลมาดริดดวลแข้งกับเจ้าบุญทุ่มบาร์เซโลน่าในสนามเป็นกลางให้สะใจคอบอลกันไป แต่แล้วเจ้าค้างคาวบาเลนเซียก็แหวกผ่านม่านความหวังของคนดู เสนอตัวเองเข้ามาเป็นคู่ชิงของรีลมาดริดเสียจนได้ แต่ไม่ว่าใครจะชิงกับใคร อย่างไรแล้วนัดชิงถ้วยฟุตบอลสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุโรปก็ย่อมเป็นที่สนใจของพวกเราซึ่งบ้าฟุตบอลอย่างไม่เป็นสองรองใครอยู่แล้ว
“กูว่าคาซิยาสนี่แม่งไปไกลแน่ๆ มันเหนียวตั้งแต่เด็กๆอย่างนี้ น่าจะเป็นตัวจริงให้มาดริดไปอีกนาน” โยพูด “แต่ดูแม่งจัดตัวลง ถ้าไม่เล่นกองหลังห้าคนสงสัยจะไม่ไหว คาร์ลอสแม่งก็เติมตลอดเวลา กองหลังก็ไว้ใจไม่ค่อยได้สักตัว” ต้นให้ความเห็น “แต่กูชอบเรดอนโด้ว่ะ เชิงแม่งสูงดี เล่นบอลเท่ห์ดีว่ะ” ผมพูด “กูแม่งอยากวัดกับมันดูสักทีว่าจะเลี้ยงหลบมันได้สักทีไหม แต่กองกลางตัวรับอเมริกาใต้นี่ ไม่ใช่แค่แย่งบอลดีนะ ทักษะแม่งก็เยอะด้วย” เทพพูด “แต่กูชอบแม็คมานานมานนะ จะมีนักเตะอังกฤษสักกี่คนวะ ที่ไปเล่นที่สเปนได้ ตัวนี้แม่งของจริง”นัทพูด “แต่กูจะคอยดูว่าอเนลก้ามันคิดถูกหรือเปล่าที่มารีล มาดริด ยังไงๆกูก็ว่ามันมาเร็วไป เวนเกอร์คงเซ็งมันน่าดู กูว่านะ”ตั๊กว่า “แล้วพวกมึงไม่ชอบบาเลนเซียกันเลยเหรอไง” เอ็มถาม “กูว่าแม่งอยู่ได้เพราะสองตัว” ต้นตอบ “เมนดิเอต้ากับโลเปซใช่ไหม” โยทั้งตอบทั้งถามในประโยคเดียวกัน “กูก็ว่าอย่างนั้นล่ะ แม่งเทพมากๆทั้งสองคน นัทมึงดูไว้ได้เลย เท้าซ้ายมึงต้องเล่นให้ได้อย่างนี้” เทพพูด “กูดูมันมาตลอดล่ะ ทั้งคล่องทั้งคม เห็นแล้วต้องศึกษา”นัทพูด “แต่กูอยากวัดกับมันสักครั้งนะ ว่าจะเอาอยู่หรือเปล่า แต่กลัวจะหัวทิ่มว่ะ” โยพูดพร้อมทั้งหัวเราะให้กับตัวเอง “แต่กูว่าซ้ายกูคมกว่าซ้ายมันว่ะ หรือพวกมึงว่าไง” ตั๊กถามเพื่อนๆ “เดี๋ยวมึงก็รู้ เดี๋ยวมึงก็ไปเจอมันที่โน่นได้นี่” ผมบอกตั๊ก “เออว่ะ พูดถึงไปที่โน่น ตอนนี้พวกเราเองก็มีทางเลือกกันหมดแล้ว แต่ว่าไปกันคนละทิศละทาง จะได้เจอกันบ้างหรือเปล่าวะ”เอ็มถามเพื่อน “ก็มาเจอกันตอนที่ทีมพวกเราเจอกันใน UCL ไงวะ ดีเปล่า”ต้นบอกเพื่อนๆ “แล้วทีมในไทยแลนด์ลีกมันจะได้ไป UCL เปล่าวะนี่ พวกมึงนี่นะ” เทพพูดยอกล้อกับโชคชะตาอยู่ในที “เออนะ แต่พวกมึงไม่ต้องกลัว ยังไงกูก็ไปเจอพวกมึงแน่ๆ กูไม่เล่นในไทยนานหรอก” โยพูด “แล้วนี่พวกมึงว่าใครจะชนะวะคืนนี้” ผมถามเพื่อนๆ “ยังไงก็ได้ว่ะ แต่ขอให้เล่นกันสนุกๆหน่อยละกัน ไม่งั้นง่วงแย่” ตั๊กบอก “เอาโว้ยๆบอลมาแล้ว ช่วยกันดูนะโว้ย แล้วไปเจอกันถ้วยนี้นะเพื่อนๆ หวังว่าคงไม่มีใครผิดสัญญา” นัทพูด
เกมการแข่งขันจบลงโดยไม่เป็นอย่างที่เราคาดคิด เกมไม่ได้สูสีใดๆเลยและจบลงด้วยชัยชนะอย่างถล่มทลาย 3 – 0 โดย มอริเอนเตส แม็คมานามานและอเนลก้า มีชื่อเป็นผู้ทำประตูให้กับรีล มาดริด แต่ถึงแม้เกมการแข่งขันอาจจะไม่สนุกอย่างที่คิดแต่ฟุตบอลแมตซ์นี้ก็ยังคงทำหน้าที่เป็นพยานปากสำคัญให้กับคำสัญญาของพวกเราที่ทิ้งไว้ให้กันและกันว่าเราจะไปพบกันบนสนามหญ้าที่เราคุ้นเคยอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่ใช่สนามหญ้าบนแผ่นดินแม่ของเราอีกแล้ว แต่เราตั้งใจจะไปพบกันบนแผ่นดินแม่ของฟุตบอลสมัยใหม่ แผ่นดินแม่ของลีกอาชีพที่พวกเราคลั่งไคล้ พวกเราเรียกมันว่าแผ่นดินยุโรปนั่นเอง
ใครๆก็รู้ว่าทุกคนสามารถมาเที่ยวบาร์เซโลน่าได้ทั้งปี เพราะว่าอากาศที่นี่อบอุ่นตลอดในทุกๆเดือน แต่ไม่ว่ามันจะอบอุ่นสักเพียงใด มันก็ไม่สามารถจะทำให้ความร้อนรุ่มในจิตใจของเด็กหนุ่มคนหนึ่งลดลงได้ เด็กหนุ่มที่กำความฝันมาจากเมืองหลวงที่ห่างไกลเพียงเพื่อจะนำมันมาฟูมฟักให้เติบโตที่นี่ เมืองที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นเพียงเมืองๆหนึ่งของสเปน ถนนลา รัมบลา ที่ว่ามีลมหายใจในทุกฤดูกาล ยังคึกคักไม่ได้เพียงเสี้ยวอารมณ์ของตั๊กในชั่วโมงนี้ เท้าซ้ายที่เคยเหยียบโลกของฟุตบอลนักเรียนไว้แทบเท้า มาวันนี้มันกำลังจะมาเหยียบลาลีกา ลีกที่ว่ากันว่ามีเสน่ห์ไม่แพ้ลีกใดๆในโลก ลีกที่เต็มไปด้วยการต่อสู้ด้วยทักษะฟุตบอลอย่างที่ไม่มีลีกใดเทียบเท่า จัตุรัสคาตาลุนญ่าเป็นจุดเริ่มต้นของลา รัมบลาอย่างไร ในวันนี้คัมป์นูก็จะเป็นจุดเริ่มต้นความฝันของตั๊กอย่างนั้นและมันเองก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าถ้าอำนาจแห่งพระแม่คงคาที่คนไทยเรานับถือมีจริง ท่านเองก็คงสถิตอยู่นะทะเลเมดิเตอร์เรเนียนแห่งนี้เช่นกัน ก่อนการเดินทางมาที่นี่ตั๊กได้ตัดสินใจแล้วว่าจะยังไม่เรียนต่อปริญญาตรีแต่จะทุ่มเทให้กับฟุตบอลเสียก่อนเพื่อดูว่าระดับฝีเท้าของมันเองจะสามารถมีอนาคตที่นี่ได้หรือไม่ จากนั้นเรื่องเรียนจึงค่อยตามมาทีหลัง เนื่องจากการเตรียมตัวล่วงหน้าเป็นเวลาหลายเดือนพอสมควรบวกกับพรสวรรค์ทางภาษาของมันเอง ทำให้เมื่อเดินทางมาถึงที่นี่ความเข้มแข็งทางภาษาสเปนของมันเองก็พอจะสื่อสารกับคนที่นี่รู้เรื่องและมันเองก็ยังเรียนภาษาคาตาลันมาด้วยทำให้ปัญหาทางด้านภาษามีผลต่อมันน้อยกว่าปัญหาทางด้านฟุตบอล
ใครๆก็รู้ว่าที่สนามซ้อมมิเนียสตาดี้นั้นคลาคล่ำไปด้วยนักฟุตบอลเยาวชนระดับโลกมากมายทั้งในประเทศสเปนเองและที่เดินทางมาตามฝันจากต่างประเทศอย่างเช่นตัวมันเอง ด้วยความที่ลุงนพคนรู้จักของแม่มันที่มีเส้นสายพอสมควรที่นี่ นั่นทำให้การเข้าสู่การคัดเลือกเยาวชนรุ่นอายุต่ำกว่า 17 ปีของตั๊กเป็นเรื่องไม่ยากนัก แต่การที่จะผ่านมันไปให้ได้นั้น แม้แต่พระเจ้ายังไม่กล้ายืนยันกับมันด้วยตัวท่านเอง
“มายืนเรียงแถวกันทางนี้เลย ส่วนนายเจ้าเด็กเอเชีย เดี๋ยวลงไปคัดกับเยาวชน 15 ปีก่อนนะ” โค้ชพูด “แต่ผมอายุ 17 แล้วนะครับ” ตั๊กพูดกับโค้ชด้วยภาษาสเปนที่พอตัว “เอาน่า นายไปลองก่อน แล้วถ้าเล่นดีกว่าเด็กๆยังไงค่อยย้ายก็ยังทัน” โค้ชยังย้ำความคิดเดิม “ก็ได้ครับ” วิธีการคัดตัวเยาวชนของบาร์เซโลน่าเองไม่ได้แตกต่างจากศูนย์เยาวชนที่อื่นๆในยุโรปสักเท่าไร แต่สิ่งที่แตกต่างที่ตั๊กกำลังจะเจอก็คือฝีเท้าของเด็กๆที่นี่ที่ทำให้เท้าซ้ายของตั๊กเองกลายเป็นเท้าซ้ายธรรมดาๆข้างหนึ่งเท่านั้น “เดี๋ยวโค้ชจะให้ดวลกันตัวต่อตัว เพื่อดูทักษะของการเอาชนะคู่ต่อสู้ตัวต่อตัว ใครยิงเข้าโกล์หนูก่อน 2 – 0 เป็นฝ่ายชนะคู่แรกเจ้าเด็กเอเชียกับเรา เจ้าปิเก้” โค้ชพูดถึงเจ้าเด็กสเปนที่เล่นตำแหน่งกองหลัง ด้วยรูปร่างที่ค่อนข้างจะใหญ่กว่าเด็กรุ่นเดียวกันนั่นทำให้เพียงแค่อายุ 13 ปิเก้ก็ตัวสูงเท่ากับตั๊กแล้ว “เดี๋ยวเถอะ ตัวใหญ่ๆดูท่าจะอืดอาดเดี๋ยวกูจะหลอกให้หัวทิ่มเลย” ตั๊กพูดกับตัวเองก่อนการเผชิญหน้ากับเด็กเจ้าถิ่นครั้งแรกบนแผ่นดินคาตาลัน พลันสิ้นเสียงนกหวีด เด็กๆทั้งสนามจับกลุ่มกันยืนดูเด็กสเปนเจ้าถิ่นดวลกับเด็กไทยที่มาตามหาอนาคตที่นี่ ตั๊กเป็นฝ่ายเขี่ยบอลก่อนพร้อมเลี้ยงเข้าหาปิเก้อย่างมั่นใจในตัวเอง เจ้าหนูปิเก้ค่อยๆสืบเท้าเข้ามาใกล้ตั๊กเรื่อยๆเพื่อปิดระยะ ตั๊กเองรู้ดีว่าความเร็วไม่ใช่จุดเด่นของตัวเองเพราะฉะนั้นมันกะว่าจะโยกหลอกเพื่อหาจังหวะยิงไกลให้เข้าโกล์หนูไปเท่านั้น ไม่ได้คิดจะกระชากหลบไปแต่อย่างใด ตั๊กเร่งสปีดเลี้ยงจี้เข้าหาและเมื่อถึงระยะที่มันคิดไว้ มันใช้เท้าขวาไขว้หลอกหนึ่งครั้งก่อนใช้เท้าซ้ายแตะออกทางซ้ายมือตัวเองอย่างคล่องแคล่วก่อนแตะหนีปิเก้ไปได้อย่างง่ายดาย ทันใดนั้นตั๊กง้างเท้าซ้ายเพื่อสับไกทำประตูแรกตามที่มันคิดไว้ แต่แล้วมันก็ทำได้แค่คิด เจ้าหนูปิเก้ล้มตัวสไลด์มาจากด้านข้างกวาดบอลจากเท้าตั๊กไปอย่างง่ายดายเพราะมันไม่ได้ระวังตัวแม้แต่น้อย ตั๊กล้มกลิ้งหัวคะมำท่ามกลางความขบขันของเด็กๆคนอื่นที่ดูอยู่รอบๆ และเพียงแค่มันตั้งท่าจะลุกไปเอาบอลคืน เจ้าเด็กปิเก้ก็ส่งบอลเข้าโกล์ไปเรียบร้อยแล้วด้วยความง่ายดาย และตามกติการที่โค้ชว่าไว้ ตั๊กจะพลาดไม่ได้อีกแล้ว โอกาสครั้งต่อไปของตั๊กต้องเริ่มต้นจากการตั้งรับก่อน เจ้าปิเก้เป็นคนพาบอลเข้าหาบ้างในการเริ่มเกมครั้งนี้ ตั๊กตั้งสติเป็นอย่างดีเพราะรู้ว่าจะพลาดอีกไม่ได้แล้ว แต่แล้วมันก็ต้องงงเมื่ออยู่ดีๆเจ้าปิเก้ก็งัดบอลให้ลอยโด่งมาเข้าหัวตั๊กอย่างง่ายๆ ตั๊กเองไม่ได้ถนัดลูกหัวแต่อย่างใดแต่บอลง่ายๆแบบนี้มันก็คิดว่ามันเองสามารถโหม่งเปลี่ยนทางหนีหรือว่าเอาบอลลงได้โดยง่ายอยู่แล้ว แต่มันเองก็ทำได้แค่คิดอีกครั้ง ในขณะที่ตั๊กกำลังจะโหม่งบอล เจ้าหนูสเปนก็โถมทั้งตัวเข้ามาชิงโหม่งบอลไปก่อนพร้อมทั้งกระแทกตั๊กอย่างเต็มแรงส่งผลให้ตั๊กล้มก้นจ้ำเบ้าเป็นครั้งที่สองของเกมนี้ และเจ้าปิเก้ก็ส่งบอลเข้าประตูไปอย่างง่ายดายเป็นครั้งที่สองท่ามกลางเสียงหัวเราะของทุกๆคนรอบสนามอีกตามเคย ตั๊กอับอายจนแทบไม่อยากจะลุกขึ้นมามองหน้าใครๆ ที่มันพ่ายแพ้ให้กับเด็กอายุ 13 อย่างชนิดหมดทางสู้ ตั๊กพยายามปลอบใจตัวเองว่ามันแค่ประมาทและลุกขึ้นมายืนรอโอกาสของมันต่อไปในครั้งหน้าพร้อมทั้งรับรู้แล้วว่าการต่อสู้ที่นี่ไม่ได้ง่ายอย่างที่มันคิดแน่ๆ แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้มันพอจะยิ้มได้ก็คือไมตรีจิตจากเจ้าหนูตัวเล็กอีกคนที่ก็มาตามฝันของตัวเองที่นี่เช่นเดียวกัน “นายมาจากไหนล่ะ” เจ้าหนูพูด “เรามาจากกรุงเทพ เราชื่อตั๊ก นายล่ะ” “เราเมสซี่ มาจากอาร์เจนติน่า นายเจ็บตัวหรือเปล่า ปิเก้มันเล่นหนักอย่างนี้อยู่แล้ว แต่มันก็ตั้งใจเล่นบอลนะไม่ได้เกเรอะไร” เจ้าหนูน้อยแนะนำตัวให้เพื่อนใหม่ได้รู้จัก “เราไม่เป็นไรมากหรอก ยังสู้ไหวน่า” ตั๊กยังพูดอย่างอารมณ์ดี “คู่ต่อไปเข้ามา บุสเก็ตเจอกับฟาเบรกัส” สิ้นเสียงของโค้ช สองดาวรุ่งร่างบางก็ก้าวออกมาเผชิญหน้ากันเป็นคู่ต่อมา ทั้งสองเป็นเด็กสเปนด้วยกันและการต่อสู้ของทั้งคู่นั้นเป็นการต่อสู่ที่เต็มไปด้วยชั้นเชิง ตั๊กยืนดูเด็กทั้งสองคนพร้อมทั้งทึ่งไปกับทักษะที่ทั้งสองคนมี ก่อนหน้าที่จะมาที่นี่ตั๊กเองก็ขึ้นชื่อว่าเป็นนักเตะระดับเยาวชนที่เทคนิคดีมากๆคนหนึ่งในประเทศ แต่พอมาอยู่ต่อหน้าดาวรุ่งแห่งคัมป์นูทั้งหลายแล้ว มันมองตัวเองเป็นเด็กอมมือไปเลยก็ไม่ปาน แต่แล้วมันก็ลืมทุกสิ่งที่มันเห็นไปหมดสิ้นเมื่อได้เห็นฟอร์มของผู้ชายที่มันคิดว่าน่าจะเก่งที่สุดในโลกนี้ได้ภายในอนาคต “คู่ต่อไปลงมา เมสซี่กับเปโดร” “เราไปก่อนนะตั๊ก คอยเชียร์เราด้วย” เมสซี่พูด “เอาเลยเจ้าตัวเล็ก สู้ตายๆ ระวังเจ็บด้วยล่ะ” ตั๊กพูด เมสซี่ส่งยิ้มให้กับตั๊กโดยไม่พูดอะไรก่อนก้าวเท้าลงไปในสนาม และเพียงไม่กี่นาทีที่ตั๊กมีโอกาสได้ชมฝีเท้าของเมสซี่ใกล้ๆ มันก็รู้ได้ทันทีว่าอนาคตของบาร์เซโลน่าใน 10 – 20 ปีต่อจากนี้ไป คงอยู่ภายใต้สตั๊ดของเด็กหนุ่มอาร์เจนไตน์คนนี้เป็นแน่
“วันนี้มาเล่นลิงชิงบอลเป็นโปรแกรมสุดท้ายนะ ตั๊กมาอยู่กลุ่มนี้ มีเมสซี่ ดอสซานโต๊ส ฟาเบรกัส บุสเก็ต ลิงตัวเดียวเล่นจังหวะเดียวนะ” โค้ชบอกโปรแกรมสุดท้ายของวันแรกให้กับเด็กๆทุกคนได้ทราบ และนั่นทำให้ตั๊กตื่นเต้นมากที่จะได้ต่อสู้และเรียนรู้ฝีเท้าของเพื่อนๆคนอื่นไปในตัว “เอาล่ะ เป็นไงเป็นกันวะ” ตั๊กพูดพร้อมกับถอนหายใจ จากนั้นจึงวิ่งไปเข้ากลุ่มเล่นลิงชิงบอลตามที่โค้ชสั่งในทันที และไม่ว่าต่อไปนี้ตั๊กจะต้องเจอกับอะไรบ้าง มันก็พร้อมที่จะสู้เต็มที่โดยหวังเพียงแค่ว่าจะได้ลงสัมผัสสนามคัมป์นูในฐานะนักเตะของบาร์เซโลน่าแค่เพียงสักครั้งก็พอใจ
จบวันแรกของการคัดตัว ตั๊กกลับมานอนพักอย่างเศร้าสร้อยอยู่ที่บ้านของลุงนพซึ่งอยู่ห่างจากสนามซ้อมไม่เท่าไร มันเองรับรู้ถึงความห่างชั้นของตัวมันกับเด็กฝึกของบาร์ซ่าคนอื่นๆได้ภายในวันแรกของการฝึกซ้อม มันไม่อยากจะจินตนาการเลยว่าถ้าตัวเองต้องไปคัดตัวกับเด็กที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันแล้วจะเป็นอย่างไร แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตามตั๊กก็รู้ตัวว่าไม่สามารถจะยอมแพ้ในการต่อสู้ครั้งนี้ได้ และวิธีเดียวที่จะต่อสู้กับเด็กพวกนั้นได้ก็คือการฝึกซ้อมที่มากขึ้นๆ มากในแบบที่มันเองไม่เคยทำมาก่อนเพียงเพื่อจะพัฒนาฝีเท้าให้ดีพอที่จะติดทีมของที่นี่ได้ ตั๊กเองได้คุยกับเด็กๆรุ่นน้องแล้วได้ความว่าในรุ่น 17 ปีนั้นมีนักเตะที่ฝีเท้าดีๆอีกมากมายที่เหนือไปกว่ารุ่น 15 ปี และนั่นหมายความว่ามันยังต้องใช้ความอดทนในการพัฒนาตัวเองอีกมากมายเพื่อก้าวไปให้ถึงจุดนั้นให้ได้ และไม่ว่าใครก็ไม่สามารถจะช่วยมันได้อีกต่อไปนอกจากตัวของมันเอง ตั๊กค่อยๆปล่อยความคิดในสมองล่องลอยไปเรื่อยๆพร้อมกับหลับตาพักผ่อนเพื่อต่อสู้กับความจริงอันโหดร้ายในวันรุ่งขึ้นอีกครั้ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น