วันพฤหัสบดีที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2553

“รักไม่ยอมเปลี่ยนแปลง”

ช่วงเวลา “เช้าตรู่” ที่แสนสดชื่นมาเยือนผมเหมือนในทุกวัน
แน่นอนว่ามันไม่เคยสนใจว่าผมจะต้องการมันหรือไม่
จะอย่างไรมันก็ยังคงทำหน้าที่ของมันอยู่อย่างนั้น
“ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง”
วันนี้ผมใส่ชุดนอนชุดเดิมเหมือนเช่นทุกวัน
ชุดนอนผมกับเช้าวันใหม่มีอะไรที่คล้ายกัน
เพราะมันทั้งคู่ไม่เคยเปลี่ยน
และบนโลกใบนี้ไม่ได้มีแค่สองสิ่งนั้นที่ไม่เปลี่ยน
อีกสิ่งหนึ่งที่ยังคงเหมือนเดิมตลอดเวลาคือตัวผม
ผมยังคงชะเง้อมองหาเธอผู้เป็นที่รักเฉกเช่นทุกวัน
“ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง”
แต่วันนี้อะไรบางอย่างแตกต่างจากเมื่อวาน
วันนี้เธอมาหาผมอย่างที่ผมไม่เคยคาดคิด
ผมยืนมองตรงไปที่เธอด้วยสายตาที่ยากจะบอกความรู้สึก
เมื่อวานทำไมเธอไม่มาหาผม
ผมเฝ้าถามตัวเองอยู่อย่างนั้นและยังไม่คิดจะให้อภัยเธอ
แต่แล้วเธอก็เดินเข้ามาหาผม
แววตาของเธอไม่ได้แสดงว่ารู้สึกผิดแต่อย่างใด
ผมครุ่นคิดในใจว่าวันนี้จะเริ่มต้นทักทายเธอด้วยคำพูดไหน
แต่ระหว่างที่ผมมองเธอมันเหมือนมีอะไรบางอย่าง
อะไรบางอย่างที่มันกั้นขวางระหว่างเราไว้
สุดท้ายคำพูดของเธอก็ปลุกผมให้ตื่นขึ้นมาจากภวังค์
“เมื่อวานติดธุระเลยมาเยี่ยมพี่ไม่ได้”
“แต่วันนี้ซื้อข้าวผัดกับชาดำเย็นมาฝากเหมือนเดิม”
“วางไว้บนโต๊ะจ่าโน่นนะ”
ผมเผลอยิ้ม เผลอยิ้มและลืมว่ายังโกรธเธออยู่
ผมเอามือสองข้างยื่นทะลุบางอย่างที่กั้นขวางระหว่างเราไว้
ผมอยากสัมผัสเธอ แต่ก็ทำได้แค่ยื่นมือออกมา
แต่แค่นั้นก็เพียงพอ
ผมมองตาเธออีกครั้ง แววตาเธอพยายามบอกผม
ไม่ว่าอะไรที่กั้นขวางระหว่างเราไว้ มันจะขวางได้แค่กาย
ถ้าใจของเราสองคน
“ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง”
ระหว่างกำลังอ่านแววตา ท้องผมร้องออกมา ผมยิ้มอีกครั้ง
ยิ้มโดยไม่รู้ว่ายิ้มให้กับ “ข้าวผัด” หรือยิ้มให้กับ “เธอ”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น