วันพฤหัสบดีที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2553

รวมเล่ม 18. นาฬิกาเทียงคืน

นาฬิกาแขวนผนังบรรจงบอกเวลาเที่ยงคืนอย่างมีนัยยะ ทุกค่ำคืนในเวลาเดียวกันนี้ บางคนอาจจะกำลังหลับ บางคนอาจจะกำลังตื่น แต่เขาผู้นี้ใช้ช่วงเวลาดังกล่าวในการรอ รอเพื่อที่จะพบกับเธอในทุกเที่ยงคืน

"ทำไมต้องเป็นเที่ยงคืนเท่านั้น ที่คุณจะคุยกับฉัน" เธอเปิดบทสนทนาด้วยความสงสัย
"แล้วคุณจะให้ผมคุยกับคุณตอนไหน" เขาถามกลับ
"ก็เราเจอกันอยู่ทั้งวัน" หล่อนบอก
"ชั่วโมงละครั้งน่ะหรือ มันไม่พอสำหรับความคิดถึงของผมหรอก" เขาเผยความในใจ
"แต่ตอนเที่ยงคืน ฉันก็ไม่ได้อยู่กับคุณนานไปกว่าชั่วโมงอื่นๆนี่นา" หล่อนยังคงสงสัย
"แต่มันเป็นช่วงเวลาเดียวที่ผมเจอคุณในขณะที่ฐานะเราเท่าเทียม" เขาเปลือยความในใจอีกครั้ง
"แล้วตอนเที่ยงวันล่ะ" เธอถาม
"ผมหิวข้าว" เขายียวน
"แล้วทีเที่ยงคืนทำไมไม่ง่วง" หล่อนไม่ยอมแพ้
"ผมรอคุณ รอคุณทุกวัน" เขาพูดพร้อมทั้งมองเข้าไปในแววตากลมโตของเธอ

ด้วยงานที่เขาและเธอรับผิดชอบอยู่นั้นไม่เปิดโอกาสให้เขามีเวลาสานสัมพันธ์กับเธอมากเท่าไร เขาได้พบหน้าเธอเพียงชั่วโมงละครั้งในทุกวัน และแต่ละครั้งเขามีเวลาสนทนาปราศรัยเพียงไม่เกิน 1 นาที และเขาก็มักจะต้องจำใจลาไปทำหน้าที่รับผิดชอบของเขา เขารู้ดีว่างานของเขาต่ำต้อยแต่คนไร้ศักดินาอย่างเขาเลือกงานที่ดีกว่านี้ได้ด้วยหรือ เขาทำเพียงเพื่อปากท้องแต่หาได้มีอนาคตใดไม่ สิ่งจรรโลงใจของเขามีเพียงสอง หนึ่งนั้นคือการได้พบหน้าเธอทุกชั่วโมง และสองถ้าเขาทำหน้าที่ที่รับผิดชอบอย่างเที่ยงตรง เธอผู้นั้นจะยิ่งมีคุณค่ามากขึ้นในสายตาคนอื่นๆ

"ผมได้แต่ทำงานไปวันๆ ทำเพียงเพื่อให้คุณมีคุณค่า" เขาพูด
"คุณเองก็มีคุณค่า แต่คุณแสร้งมองไม่เห็นต่างหาก" เธอบอก
"ผมทำงานแทบจะทุกนาที แต่คนกลับสนใจในตัวคุณมากกว่า" เขาตัดพ้อ
"คุณรู้ได้อย่างไร" หล่อนถาม
" รู้ก็แล้วกัน คุณทำงานแค่ชั่วโมงละไม่กี่ครั้งแต่กลับมีคุณค่ามากกว่างานของผม บางครั้งผมเคยคิดอยากเป็นคุณ" เขาเปิดใจ
"บางครั้งเราฝืนความต้องการของพระเจ้าไม่ได้ แต่เราทำให้ดีที่สุดภายใต้กรอบนั้นได้" หล่อนพยายามอธิบาย

หัวข้อการสนทนายังคงเป็นเช่นเดิม เขาดักรอเพื่อพบเธอในทุกเที่ยงคืนแต่ยังคงพูดประโยคเดิมๆ เขาไม่พอใจในงานที่ตัวเองทำ เขาไม่เห็นคุณค่าของมัน เหตุผลที่เขาทนทำอยู่มีเพียงหนึ่งเดียว เพื่อพบเธอ แต่ยิ่งวันเวลาผันผ่านไปเท่าไร ความใกล้ชิดกลับกลายเป็นความเคยชิน เขาและเธอเริ่มต้นและจบบทสนทนากันด้วยคำพูดเดิมๆ แต่ครั้งนี้เป็นเธอที่จะไม่ทนกับอะไรเดิมๆ

"คุณลองคิดดูว่า ถ้าคุณไม่ทำงาน งานของเราจะมีใครสนใจ" เธอเปิดประเด็น
"คุณก็ได้แต่ปลอบผม คุณไม่เป็นผมคุณไม่รู้" เขาบ่น
"แล้วคุณไม่ได้เป็นฉันคุณรู้ได้อย่างไรว่าฉันมีความสุข" เธอถาม
"ทำไมคุณจะไม่มี" เขาถาม
"ฉันทำงานเพียงน้อยนิดในขณะที่คุณทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อย แล้วฉันจะมีความสุขได้อย่างไร" เธอมองตาเขา
"คุณรักผม" เขาถาม
"อาจจะใช่" เธอบอก
"ถ้าคุณบอกผมตั้งแต่แรก ผมคงจะไม่รังเกียจงานนี้" เขาเผย
"คุณรักฉัน" เธอถาม
"มากมายมหาศาล ผมยอมทำทุกอย่างเพื่อที่คุณจะได้รับการยอมรับ" เขาตอบอย่างจริงใจ
"คุณไม่อยากเป็นฉันแล้วหรือ ไม่อยากทำงานสบายแล้วหรือ" เธอถามอีกครั้ง
"ผมรักคุณ" เขาตอบ
"ฉันอยากให้คุณเห็นคุณค่าในตัวเองบ้าง งานของเราสองคนขาดใครไปไม่ได้ คุณก็รู้" หล่อนบอก
"ผมจะพยายาม บางครั้งผมอยากได้ไปข้างนอกบ้าง อยากส่งเสียงดังยามเช้าบ้าง แต่ก็ทำได้เพียงทำงานอยู่ในห้องแบบนี้" เขายังคงคร่ำครวญ
"ทุกอย่างมีคุณค่า คุณอย่าโทษตัวเองไป บางคนอาจอิจฉาคุณที่ได้อยู่ในห้องแอร์เย็นๆ ไม่ต้องตากแดด บางคนอาจอิจฉาคุณที่ไม่ต้องคอยตื่นเช้า" เธอพยายามอธิบาย
"นั่นสินะ" เขาครุ่นคิด

นั่นสินะ เขาอิจฉาคนอื่นและพยายามมองตัวเองในแง่ลบ แต่เขาจะรู้ได้อย่างไรว่าคนอื่นๆไม่ได้อิจฉาเขา เขามีโอกาสได้พบเธอทุกชั่วโมงด้วยหน้าที่การงาน และในชั่วโมงนี้เขาได้รู้ว่าเธอรักเขา และอย่างแน่นอนที่สุดเขาก็รักเธอ ก็แล้วเขายังจะต้องกังวลอะไรอีก

"แต่ผมกังวลเหลือเกิน กลัวว่าเมื่อโลกเปลี่ยนไป ทุกสิ่งอย่างล้วนถูกแทนด้วยตัวเลข ด้วยดิจิตอล แล้วยังจะมีใครต้องการเราสองคนอีกหรือ"
"ตัวเลขไม่มีศิลปะ ดิจิตอลไม่มีประวัติศาสตร์ เราสองคนต่างหากคือสิ่งที่สวยงาม"
"ฉันไม่เชื่อว่าต่อไปเราจะไม่มีใครต้องการ ถ้าคุณยังคงเชื่อในสิ่งที่คุณทำและเต็มที่กับมัน"
"ผมเชื่อที่รัก ผมเชื่อ ผมเชื่อคุณและเชื่อในสิ่งที่ผมทำ ผมจะไม่อยากเป็นอย่างคุณ ไม่อยากทำงานของคุณ แต่ผมจะทำงานของผมให้ดีที่สุดอีกครั้ง เพื่อให้ตัวคุณมีคุณค่าไปด้วย"
"ขอบคุณจริงๆค่ะ"
"ผมคงต้องไปแล้ว ราวตีหนึ่งห้านาทีเราคงได้พบกันอีก หวังว่าคุณคงจะไม่รังเกียจ"

เมื่อช่วงเวลาแห่งการลาจากมาถึง เขาจำเป็นต้องสลัดความรู้สึกเบื้องลึกแห่งอารมณ์ทิ้งไป เหลือไว้เพียงความมั่นคงต่อหน้าที่เฉกเช่นผู้ชายทุกคนควรจะมี

"ฉันรักคุณค่ะ ฉันจะรอ รอทุกชั่วโมงที่เราจะได้พบกัน"
"ผมจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อที่จะได้มาพบคุณตรงเวลา ผมเชื่อว่าถ้าเราสองคนทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ดิจิตอลจะไม่สามารถมาแทนที่เราได้ และเมื่อนั้นผมกับคุณจะไม่มีทางแยกจากกัน"
"ฉันก็เชื่อเช่นนั้นค่ะ รีบไปเถอะค่ะเดี๋ยวจะสาย"
"ครับ ผมต้องไปแล้วนะ ผมรักคุณนะ เข็มสั้นของผม" เขาบอกรักให้กับเธอผู้เป็นที่รัก
"ฉันก็รักคุณค่ะ คุณเข็มยาว" เธอตอบแทนเขาด้วยคำรักเช่นกัน

เมื่อเวลาเที่ยงคืนผ่านเลยไป ชายหนุ่มยังคงต้องทำหน้าที่ของเขาเฉกเช่นทุกวัน การลาจากเป็นดังญาติสนิทที่เขาต้องพานพบอยู่เสมอ แต่วันนี้เขาไม่โศกเศร้าเช่นเดิม เขารู้แล้วว่าเธอรักเขา เขารู้แล้วว่างานของเขามีคุณค่าและเขารู้แล้วว่า ตัวเลขดิจิตอลไม่มีทางแทนที่เธอและเขาได้ จุดจบสุดท้ายของชายหนุ่มเข็มยาวผู้ทำหน้าที่อยู่ภายในนาฬิกาแขวนผนังจะเป็นเช่นไรใครเล่าจะรู้ ตัวเขาเองก็ไม่อยากรู้ เขาอยากจะรู้แค่เพียงว่าในหนึ่งชั่วโมงข้างหน้าเธอจะรอเขาอยู่ที่นั่น ที่ที่เขาและเธอพบกันในทุกค่ำคืน

1 ความคิดเห็น: